Xpaint
Hello, my name is X PIYAWAT.I am Professional Painter from THAILAND.I was born in 1982. In childhood,I am interested in science,art and football.I graduate Bachelor degree at BANGKOK UNIVERSITY.I started paint in 2004. I have dream about artist.I want to display my artworks around the wolrd !!!!! Everyday, I created new artworks.Although sale artworks are difficult.But I think my artworks are great artworks ,quality and reasonable price.
วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556
ความกลัวและความอดทน
"บางครั้ง ชีวิตผมก็หยุดอยู่ตรงนี้ อย่างไม่มีเหตุผล อาจจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ มันได้ทำลายความเชื่อมั่นและศรัทธา ของผมที่เคยมีมาอย่างยาวนาน วันนี้ผมไม่มีความเชื่อและศรัทธาหลงเหลืออยู่ มันอาจจะนานเกินไปจนทำให้ตนเองลืมสิ่งเหล่านั้น เหมือนคนความจำเสื่อม ผมลืมมันไปจริงๆ วันที่ผมจุ่มหัวลงมิดน้ำ วันนั้น ความรักมีเต็มหัวใจของผม ความรักอย่างที่พระเจ้าสั่งสอนมนุษย์ให้เป็น ผมรู้สึกดีเสมอเมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านั้น ผมแทบจำไม่ได้ว่า สิ่งที่ผมพยายามรักษาไว้สุดท้ายมันคือ ความหวังจริงๆของชีวิตผม หรือผมกลัวที่จะสูญเสียสิ่งเหล่านั้นไป มนุษย์เราทุกคนมีความกลัวเสมอ จนบางทีเรากลัวจนทำให้สิ่งเหล่านั้น บั่นทอนความสามารถของเรา ผมยอมรับ ผมกลัวที่จะสูญเสีย ผมกลัวที่จะผิดหวัง ลึกๆแล้วผมกลัว คุณกลัวเหมือนผมไหม แม้ผมจะกลัวแค่ไหน แต่ทุกครั้งที่กลัว ก็จะมีเสียงบอกให้วางใจ ให้ปล่อยวาง ให้เชื่อว่า ผมทำได้ทุกครั้ง หากวันนี้ผมเป็นสายลับ แล้วโดนฝ่ายศัตรูจับกุม เขาทรมานผมทุกวิถีทาง ที่จะให้ผมพูดความจริง จะมีใครสักกี่คนที่อดทนได้ จะมีใครอดทนเพื่ออุดมการณ์ที่เราเชื่อ ผมจะอดทนได้นานเพียงใด แล้วคุณจะอดทนได้ไหม หากวันนี้ผมโดนคนที่ผมรัก เมินเฉย เย็นชา ทำเหมือนผมไม่มีตัวตน จะมีใครสักกี่คนที่อดทนได้ คุณจะร้องไห้ไหม คุณจะกลั้นน้ำตาไว้ได้ไหม ผมคงเสียใจ แล้วผมจะอดทนกับความเสียใจได้ไหม ผมจะอดทนกับความไม่สมหวังได้ไหม หลายครั้งที่เราเลิกอดทน จนทำให้เราต้องสูญเสียทุกอย่าง ผมคงต้องอดทนจนกลายเป็นนิสัย เพื่อเป็นเกราะป้องกันตนเอง จากความผิดหวัง หากมองในแง่ดี ความผิดหวัง ทำให้เราพยายามมากขึ้น มากขึ้น และแข็งแกร่งขึ้น เพื่อหลุดพ้นจากความผิดหวัง แม้ความหวังที่หวังยังไม่เป็นความจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีโอกาส โอกาสอยู่ที่ตัวเราเอง อย่ามัวบ่น อย่ามัวเสียเวลากับอดีต แค่ห้านาทีที่แล้วก็เป็นอดีตไปแล้ว ผมยังต้องอดทนและอดทน ต่อไป อย่างน้อยผมก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ผมสามารถที่จะอดทนได้มากขึ้น แม้มากขึ้นเพียงนาทีเดียวก็ยังดี"
วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556
สัมผัส
ผมไม่สามารถอธิบายความรู้สึกบางอย่างได้ มันเกิดขึ้นแล้วเหมือนดับลงชั่วครู่ แล้วกลับมาลุกโชนขึ้นอีกครั้ง ชีวิตของมนุษย์ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิต ผมเคยถามตัวเองเสมอว่าตกลงแล้วชีวิตของเราต้องการอะไรกันแน่ บางทีสิ่งดีที่เราเคยได้พบเจอในชีวิต อาจจะอยู่กับเรา หรือจากไปอย่างไม่มีวันกลับมา เวลาที่มีค่าของเราอาจจะสูญเสียไปกับการรอคอยความหวังลมๆแล้งๆ ที่ไม่มีวันเป็นความจริง เราอาจจะพบสัจธรรมในชีวิตจากใครคนหนึ่งหรือภาพๆหนึ่งโดยบังเอิญ ชีวิตที่เหลือของเราจะสำคัญอะไรหากสิ่งที่เรียกว่าจิตวิญาณได้ถูกพรากจากไปด้วยระบบที่โหดร้ายของโลกใบนี้ มีคนบอกว่าโลกนี้โหดร้ายเกินกว่าที่คนอ่ออนแอจะมีชีวิตอยู่ได้ แต่พวกเขาลืมพกพาความรักและศรัธทาที่มีอยู่ในตนเอง พวกเขาให้ความสำคัญกับบางสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน ละทิ้งความฝัน ละทิ้งคนที่รักเพื่อความก้าวหน้าจอมปลอม มิตรภาพถูกทำลายด้วยความเชื่อใจในกันและกัน สุดท้ายพวกเขาเหลืออะไรบ้าง วัตถุที่คิดว่ามีค่าที่สุดก็ไม่สามารถแสวงหาความรักหรือการหลุดพ้นจากวงจรที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น เสียงเพรียกหาจิตวิญาณยังมีอยู่ในทุกผู้คน แต่พวกเขาไม่แม้แต่จะกล้าแสดงออก เพราะพวกเขากลัวเิกินกว่าที่จะมีชีวิตที่ต้องการ ความร่ำรวย ยากจน เป็นแค่ปัจจัยหนึ่ง แต่สิ่งที่พวกเขากลัวสุดขีดคือ กลัวว่าความหวังลมๆแล้งๆ จะเป็นความจริง กลัวว่าสิ่งที่เขาคิดจะเป็นความจริง ไม่มีใครรู้หรอกว่าสุดท้ายแล้ว ความรัก ความหวัง ความฝันในสิ่งต่างๆของมนุษย์ จะทำให้พวกเขาสุขได้อย่างแท้จริงหรือไม่ เปรียบได้กับ ลมที่ล่องลอยอย่างไร้ทิศทาง ความสุขมีจริงหรือเปล่า ตัวตนของเราเท่านั้นที่จะตัดสิน ชีวิตที่แสนสั้นของมนุษย์ไกลเกินไปที่จะจินตนาการได้ถึงในวันสุดท้ายของชีวิต บางครั้งเราแค่ต้องการความรัก ผ่านคำพูด เสียงแผ่วเบากระทบใบหู ว่า รัก แค่นั้น อาจทำให้ชีวิตของใครบางคนดีขึ้นราวกับต้นไม้ได้รับปุ๋ยเคมี เสียงที่ได้ยินอาจก้องอยู่ในหูยาวนาน จดจำในสมอง ลึกดำดิ่งสู่จิตใต้สำนึกโดยไม่รู้ตัว แต่จะมีใครเล่าจะได้สัมผัส สิ่งเหล่านั้น มนุษย์มากมายต้องผิดหวัง ชอกช้ำกับคำลวงของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน การฆ่าฟัน เกิดจากความไม่เข้าใจ เพียงองศาที่ต่างกันทำให้โลกใบนี้ต้องแปดเปื้อน ความรักอันบริสุทธิ์ยากจะสัมผัสถึง ความใคร่ ความอยากเป็นของคู่กับมนุษย์ การหยุด ห้ามใจเป็นเรื่องยากเมื่อเราได้พบกับสิ่งสวยงาม แต่บางครั้งมนุษย์ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งเหล่านั้น ด้วยความชาชิน และความเย็นในจิตใจราวกับสีขาวของหิมะที่ตก พวกเขาลืมความรู้สึกนั้นไปหมดสิ้น สัมผัสสุดท้ายแห่งลมหายใจ แห่งความหวังของมนุษย์คือสิ่งใด สุดท้ายแล้วชีวิตของพวกเราจะไปที่ไหน วันนี้ชีวิตที่เหลืออยู่ของเรา ทุกคนต้องการสัมผัสความดีงามของชีวิต แม้เพียงเวลาแสนสั้น มันก็คุ้มแล้วกับการเกิดมาบนโลกใบนี้
วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
100 aceo ( art cards edition and originals ) by X piyawat.
I sale this my artwork at http://www.ebay.com/itm/271099270257
Title: Untitled
Technique: Mixed on Paper.
Size:2.5 x 3.5 inch (ACEO 100 pieces.)
Artist : X Piyawat.
Year : 2010-2012.
piyawat sangkaewe.
PAYMENT METHOD " I accept only PAYPAL for payment, this is easy the most preferred way.Please kindly pay within 7 DAYS after you won the item."
MY ADDRESS
SHIPPING & HANDLING METHOD " I ship to worldwide via Economy Registered Airmail 15 dollar for shipping cost.Item will packed with protective material to provent damage during transit .It should arrived within 15-25 days."
SATISFACTION GUARANTEE "If you are not satisfied with my artwork you purchesed for any reason, Please contact me for return instruction within 7 days for refund.Shipping and handling are not refundable and you are responsible for return shipping cost."
MY ADDRESS
187 M.1 T.Cha-uat A.Cha-uat.
Nakhon Si Tammarat,Thailand 80180
Follow me
Nakhon Si Tammarat,Thailand 80180
Follow me
www.facebook.com/sangkaewe
www.twitter.com/xpiyawat
THANK YOU FOR LOOKING AT MY ARTWORK.
THANK YOU FOR LOOKING AT MY ARTWORK.
วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555
PHANTASM
http://www.ebay.com/itm/271057049016
http://www.ebay.com/itm/271057049671
Title:phantasm.
Technique: Acrylic on Paper.
Size:2.5 x 3.5 inch
Artist : X Piyawat.
Year : 2012.
piyawat sangkaewe.
PAYMENT METHOD " I accept only PAYPAL for payment, this is easy the most preferred way.Please kindly pay within 7 DAYS after you won the item."
MY ADDRESS
SHIPPING & HANDLING METHOD " I ship to worldwide via Economy Registered Airmail 1 dollar for shipping cost.Item will packed with protective material to provent damage during transit .It should arrived within 15-25 days."
SATISFACTION GUARANTEE "If you are not satisfied with my artwork you purchesed for any reason, Please contact me for return instruction within 7 days for refund.Shipping and handling are not refundable and you are responsible for return shipping cost."
MY ADDRESS
187 M.1 T.Cha-uat A.Cha-uat.
Nakhon Si Tammarat,Thailand 80180
THANK YOU FOR LOOKING AT MY ARTWORK.
Nakhon Si Tammarat,Thailand 80180
THANK YOU FOR LOOKING AT MY ARTWORK.
วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555
สนามฟุตบอลที่ว่างเปล่าตอนที่ 2
กีฬาฟุตบอลเป็นกีฬากลุ่ม หรือ ระบบทีม ดังนั้นหัวใจสำคัญคือ ความสัมพันธ์ภายในทีม และความจริงใจที่มีให้แก่กัน การรวมใจกันเล่นคือสิ่งที่สำคัญที่ผมได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าคุณจะฝีเท้าดีหรือไม่มันไม่สำคัญเท่ากับการรู้จักหน้าที่ในสนาม สิ่งที่คุณได้รับมอบหมายจากโค้ชคือทุกสิ่งทุกอย่าง แม้จะไม่ชอบหรือขัดใจก็ต้องทำให้ได้เพราะมันคือระบบที่มีแบบแผน โค้ชคือผู้ปลูกฝังสิ่งเหล่านั้นให้กับตัวผู้เล่น นั่นคือระบบการแข่งขันแบบมืออาชีพ แต่ในบ้านโดยเฉพาะต่างจังหวัดโค้ชที่สามารถช่วยให้ผู้เล่นมีศักยภาพที่ดีนั้นมีอยู่น้อย เนื่องจากค่าตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า ทำให้ต่างจังหวัดจึงไม่สามารถแข่งขันกับในเมืองหลวงได้ เราได้แต่ทำใจ แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือการพัฒนาเยาวชนของชุมชนที่ท่านอยู่ให้มีใจรักฟุตบอล ให้เขามาวิ่งเล่นที่สนามบอลเยอะๆ สิ่งเหล่านี้จะสามารถเกิดขึ้นได้ต้องร่วมมือกันหลายฝ่าย ตั้งแต่ครูในโรงเรียนประถมและมัธยมจะต้องมีครูพละที่ผ่านการฝึกฝนการเป็นโค้ชฟุตบอลโดยการเข้าอบรมของสมาคมฟุตบอลของไทยเราอย่างน้อยโรงเรียนละหนึ่งคน อันดับต่อไปคือภาคเอกชนที่จะให้เงินทุนในการสนับสนุนแก่ครูและเยาวชนผู้ฝึก ซึ่งผมว่าบ้านเราคงหาได้ยากยิ่ง เพราะมีแต่คนพูดครับไม่มีคนทำ หากตนเองไม่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงแล้วคงไม่มีใครยอมลงทุน ทั้งที่จริงแล้วผมว่านั้นคือสิ่งที่คุ้มค่า เด็กเหล่านี้จะเป็นรากฐานแก่ชุมชน ในด้านต่างๆ ให้ชุมชนเรามีการพัฒนาขึ้นเพราะกีฬาคือสิ่งที่ดีช่วยให้บุคคลมีศักยภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิิิิิิิตใจ
วันนี้ต้องยอมรับความจริงว่าเยาวชนไทยมีศักยภาพต่ำมากในทุกๆด้าน เพราะการปล่อยปละละเลยของคนในสังคมและการครอบงำของทุนนิยมที่กำลังจะทำให้เราลืมหลายสิ่งหลายอย่างที่สวยงามไปวันนี้เด็กของเราทำอะไรบ้างครับ ในโรงเรียนก็ไม่ตั้งใจทำอะไรสักอย่าง มีเวลาว่างก็ขี่รถเล่น เข้าร้านเกมส์ เดินห้าง หรือถ้าหนักหน่อยก็ตั้งวง เหล้า เบียร์ ไพ่ หรือเล่นยา สิ่งเหล่านั้นผิดหรือไม่ผมไม่สนใจ ผมสนใจแค่ว่าคนที่ควบคุมกฎหมายและสังคมมันปล่อยให้เกิดได้ยังไง และสื่อวันนี้มันมีแต่อะไร ผมแทบจะไม่เคยดูทีวี เพราะสิ่งที่ดีมีน้อยเหลือเกิน เยาวชนเราขาดตัวอย่างที่ดีๆ ทำให้พวกเขาไม่มีแรงกระตุ้นในการทำสิ่งดีต่างๆ ทำให้เขามองไม่เห็น
ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งที่จะแบกรับสิ่งเหล่านี้แค่เราช่วยกัน หากคุณมีลูกก็พาลูกไปเดินเล่นบ้าง วิ่งบ้างตามสวนสาธารณะหรือสนามกีฬา พาเขาไปสัมผัสกับการแข่งขันกีฬาบ้าง หรือหากมีน้องก็ชวนกันไปวิ่งเล่นบ้าง ตามแต่เวลาว่างของเรา หรือตัวคุณเองแค่เจียดเวลาออกกำลังกายบ้างจะได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนใกล้ตัว มาเถอะครับมาออกกำลังกายกันดีกว่าอย่างน้อยก็ได้สร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมเรา ก่อนที่ทุกอย่างจะเสื่อมทรามลงไปมากกว่านี้
วันนี้ต้องยอมรับความจริงว่าเยาวชนไทยมีศักยภาพต่ำมากในทุกๆด้าน เพราะการปล่อยปละละเลยของคนในสังคมและการครอบงำของทุนนิยมที่กำลังจะทำให้เราลืมหลายสิ่งหลายอย่างที่สวยงามไปวันนี้เด็กของเราทำอะไรบ้างครับ ในโรงเรียนก็ไม่ตั้งใจทำอะไรสักอย่าง มีเวลาว่างก็ขี่รถเล่น เข้าร้านเกมส์ เดินห้าง หรือถ้าหนักหน่อยก็ตั้งวง เหล้า เบียร์ ไพ่ หรือเล่นยา สิ่งเหล่านั้นผิดหรือไม่ผมไม่สนใจ ผมสนใจแค่ว่าคนที่ควบคุมกฎหมายและสังคมมันปล่อยให้เกิดได้ยังไง และสื่อวันนี้มันมีแต่อะไร ผมแทบจะไม่เคยดูทีวี เพราะสิ่งที่ดีมีน้อยเหลือเกิน เยาวชนเราขาดตัวอย่างที่ดีๆ ทำให้พวกเขาไม่มีแรงกระตุ้นในการทำสิ่งดีต่างๆ ทำให้เขามองไม่เห็น
ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งที่จะแบกรับสิ่งเหล่านี้แค่เราช่วยกัน หากคุณมีลูกก็พาลูกไปเดินเล่นบ้าง วิ่งบ้างตามสวนสาธารณะหรือสนามกีฬา พาเขาไปสัมผัสกับการแข่งขันกีฬาบ้าง หรือหากมีน้องก็ชวนกันไปวิ่งเล่นบ้าง ตามแต่เวลาว่างของเรา หรือตัวคุณเองแค่เจียดเวลาออกกำลังกายบ้างจะได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนใกล้ตัว มาเถอะครับมาออกกำลังกายกันดีกว่าอย่างน้อยก็ได้สร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมเรา ก่อนที่ทุกอย่างจะเสื่อมทรามลงไปมากกว่านี้
วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555
สนามฟุตบอลที่ว่างเปล่า ตอนที่ 1
ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมของชาวโลกเรา ปัจจุบันมีการแข่งขันทั้งประเภทชายและประเภทหญิง ซึ่งมีแข่งกันทั้งปีทั้งระบบลีกและทัวนาเมนท์ ผมเป็นคนหนึ่งที่คลั่งไคล้กีฬาชนิดนี้มาก ตอนประมาณประถมหก มีความฝันว่าสักวันหนึ่งอาจจะเตะฟุตบอลเลี้ยงชีพให้ได้ ผมฝึกเหมือนกับเด็กๆที่ชอบฟุตบอลทุกคนทุกครั้งที่วิ่งเตะฟุตบอลรู้สึกสนุกและมีความสุขมาก ผมเล่นทุกวันมีครูช่วยในการฝึกฝน แต่จุดหักเหที่ผมคิดว่า ทำให้ตัวเอง ไม่สามารถมีพัฒนาการจนไปถึงระดับผู้เล่นอาชีพ เนื่องจากในตอนนั้น ผมเลือกที่จะเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ โดยเข้าเรียนที่จุฬาภรณราชวิทยาลัย สตูล ไม่เลือกเรียนโรงเรียนที่ฝึกฟุตบอลอย่างจริงจัง แต่อยู่ที่โรงเรียนผมก็พยายามฝึกหัดด้วยตนเองโดยตลอด แต่เนื่องจากฟุตบอลบ้านเราไม่มีระบบอะไรเลย ทีมฟุตบอลมีแต่ทีมราชการหน่วยงานรัฐ และเอกชนอีกนิดหน่อย และกระจุกตัวอยู่แต่ในกรุงเทพ ในสมัยนั้นคนที่มีโอกาสในการเล่นฟุตบอลต้องผ่านโรงเรียนที่มีชื่อเสียงทางด้านฟุตบอลมาก่อน หากเป็นเด็กจากต่างจังหวัดที่ไม่เคยเล่นที่ไหนมา ต่อให้คุณเล่นได้ดีในระดับหนึ่ง โค้ชก็ไม่มองคุณ อย่างดีก็เป็นได้แค่ตัวสำรอง ได้ลงเล่นท้ายเกมส์ ซึ่งผมประสบบ่อยมาก และที่สำคัญยุคนั้นไม่มีการจ่ายค่าตอบแทนที่มากพอ ถ้าไม่ติดทีมชาติ รับรองต้องเดินสายเล่นไปทั่วทุกคนครับ ดึกดื่นแค่ไหนก็ต้องเล่นครับ เพราะใจมันรักและต้องการเจอคู่แข่งที่เก่งๆเพื่อเสริมประสบการณ์ของเรา
ผมเตะบอลมาจนอายุประมาณ 23 ปี เมื่อจบมหาลัยก็จำเป็นต้องทำอะไรสักอย่าง เส้นทางสายฟุตบอลก็คิดว่าคงไม่สดใส และเริ่มคิดจริงจังกับการทำงานศิลปะ ตั้งแต่เด็กความสามารถพิเศษของผมก็มีแค่ฟุตบอลกับวาดภาพนี่แหละครับที่ทำได้นอกนั้นบอดสนิท หลังจากที่ได้คิดทบทวนตนเองอยู่หลายรอบ เลยหยุดเล่นบอลดีกว่า แล้วตั้งใจทำงานศิลปะอย่างจริงจัง หยุดคือไม่เล่นเลยครับ ไม่ไปสนามบอลเลย ถ้าไปก็ไปเตะแบบเหยาะแหยะ ไม่เต็มที่ เป็นแบบนั้นอยู่เกือบสี่ปี โดยผมไ้ด้เปิดร้านศิลปะที่ภูเก็ตสองปีและกรุงเทพอีกสองปี และได้ย้ายตนเองมาอยู่บ้านเกิดเมื่อสองปีที่แล้ว ช่วงเวลาเหล่านั้นในใจผมก็ยังรักฟุตบอล เมื่อมีเวลาว่างก็พยายามที่จะหาที่เตะฟุตบอล แม้จะต้องกลับบ้านดึกก็ยอม และก็รู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาที่บ้าน เพราะนอกจากจะทำงานแล้ว ผมยังสามารถได้เตะฟุตบอลกับคนแถวบ้านได้อีก ได้คุยและหัวเราะมันช่างมีความสุขจริงๆ
ย้อนกลับไปเมื่อตอนนั้นผมยังจำได้ดี แม้ผมจะเรียนจบประถมที่โรงเรียนสาธิตมหาลัยราชภัฎสงขลา แต่ผมเริ่มเรียนที่โรงเรียนบ้านชะอวดก่อนที่จะย้ายไปสงขลา ทำให้ผมก็ยังรู้จักคนเล่นฟุตบอลแถวบ้านอยู่ ที่ชะอวดในตลาดนั้น จะเล่นฟุตบอลกันที่โรงเรียนชะอวดวิทยาหรือ ช อ บรรยากาศในสมัยนั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องการมาเตะฟุตบอลเยอะมากครับ แบ่งเป็นทีมสิบเอ็ดคนได้เกือบสี่ทีม ทุกคนดูท่าทางจริงจังและขึงขัง แต่เต็มไปด้วยอารมณ์ร่วมในเกมส์ฟุตบอล ผมก็เป็นเด็กไม่กี่คนที่มาเตะ ตอนแรกผู้ใหญ่ก็กลัวเราจะเจ็บ เพราะเรายังเด็กกัน แต่ผมไม่กลัวเพราะใจมันสู้ครับ ก็ลงเล่น ตอนแรกๆก็โดนขู่บ้าง หยอกบ้าง บางทีก็เห็นเพื่อนที่มาเล่นร้องไห้ก็มี แต่เราก็ยังมาเล่นกัน
แต่ในปัจจุบันนี้ที่ชะอวดสนามฟุตบอลมีคนมาเตะน้อยมากครับ วันหนึ่งไม่ถึงยี่สิบคน และที่สำคัญคนที่มาเตะประจำก็เป็นหน้าเดิมที่ผมเตะมาตั้งแต่เด็กๆ คิดดูครับวันนั้นที่เริ่มเตะกับผู้ใหญ่ผมอายุ 12 ปี ผ่านมาเกือบ18 ปี ก็ยังหน้าเดิมอยู่ครับ ขอยกย่องอย่างมากครับกับบุคลเหล่านั้นที่ยังรักในการเตะบอลอยู่ วันนี้ผมคิดว่า ที่ไม่มีใครมาเตะบอลกันนั้น มันเป็นปัญหาใหญ่ครับสำหรับผม เพราะนี่คือรากฐานที่แท้จริงของปัญหาสังคม ยิ่งคนไม่สนใจในการออกกำลังกาย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แสดงว่าสังคมนั้นมีปัญหาอย่างแน่นอน นอกจากปัญหาสุขภาพแล้ว แสดงให้เห็นว่าคนในสังคมใช้เวลาว่างไม่เป็นประโยชน์เลยครับ คุณอย่าโกหกตนเองเลยครับว่าคุณทำงาน ไม่มีใครหรอกครับที่ทำงานยี่สิบสี่ชั่วโมง แทนที่จะเอาเวลาที่หยุดจากงาน แล้วนอนหลับ เล่นไพ่ ดูทีวี หรือตั้งวงเหล้า หรืออะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ผมว่าหันมาออกกำลังกายกันดีกว่า แค่ไม่กี่นาทีก็ยังดี หากผู้ใหญ่ทำกันเยอะๆ เด็กมันเห็นก็เลียนแบบอย่างแน่นอนครับ แล้วสังคมเราก็จะดีขึ้นครับ เด็กจะได้เลิกเลวกันเสียที เพราะผู้ใหญ่เลิกเลวก่อน
ผมยังเชื่อว่ายังมีเด็กอีกมากที่อยากเตะบอลครับ ผมกำลังพยายามชวนเด็กๆให้มาเตะบอลกันเยอะๆ เพื่อฟื้นฟูความเสื่อมถอยของสังคมและกีฬาฟุตบอลของชะอวด ให้สนามบอลกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ให้สนามบอลเป็นที่ผ่อนคลายความทุกข์และความเครียดของเราจากการทำงาน ผมไม่ได้คาดหวังในทันทีแต่จะค่อยเป็นค่อยไป ให้มีคนหน้าใหม่เข้ามาเตะเข้ามาเล่นฟุตบอลทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ เสียงหัวเราะ รอยยิ้มที่เคยเห็นจะกลับมาอีกครั้ง เพื่อรักษาสิ่งที่สวยงามที่ผู้คนทั่วโลกต่างชื่นชอบ กีฬาฟุตบอล
วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555
Black style
I sale this painting at http://www.ebay.com/itm/271046418747
Title: Untitled
Technique: Acrylic on paper.
Size:8.5 x12.5 inch
Artist : X Piyawat.
Year : 2012.
PAYMENT METHOD " I accept only PAYPAL for payment, this is easy the most preferred way.Please kindly pay within 7 DAYS after you won the item."
MY ADDRESS
SHIPPING & HANDLING METHOD " I ship to worldwide via Economy Registered Airmail 9 dollars for shipping cost.Item will packed with protective material to provent damage during transit .It should arrived within 15-25 days."
SATISFACTION GUARANTEE "If you are not satisfied with my artwork you purchesed for any reason, Please contact me for return instruction within 7 days for refund.Shipping and handling are not refundable and you are responsible for return shipping cost."
MY ADDRESS
187 M.1 T.Cha-uat A.Cha-uat.
Nakhon Si Tammarat,Thailand 80180
Nakhon Si Tammarat,Thailand 80180
Follow Me at
xpaint.blogspot.com
THANK YOU FOR LOOKING AT MY ARTWORK.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)